วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552

คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าใน 19 ประเทศ , อยู่ได้ 14-90 วัน

คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าใน 19 ประเทศ , อยู่ได้ 14-90 วัน
กระทรวงการต่างประเทศเผย คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าใน 19 ประเทศ ,
อยู่ได้ 14-90 วัน

ได้แก่ อาร์เจนตินา , บราซิล , ชิลี , เกาหลีใต้ และเปรู
ประเทศที่พำนักอยู่ได้ 30 วันได้แก่ ฮ่องกง , อินโดนีเซีย , ลาว , มาเก๊า , มองโก เลีย , มาเลเซีย , มัลดีฟส์, รัสเซีย, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้ และเวียดนาม

ประเทศที่พำนักอยู่ได้ 21 วันได้แก่ ฟิลิปปินส์

ประเทศที่พำนักอยู่ได้ 15 วันได้แก่ บาห์เรน

ประเทศที่พำนักอยู่ได้ 14 วันได้แก่ บรูไนฯ

จึงเรียนมาเพื่อรับทราบโดยทั่วกัน

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2552

ที่กินใกล้ condo

ร้าน "ตำเทวดา" จันทร์-เสาร์ 10.30-21.30 น. (แต่ครัวปิด 21.00 น.)
โทร. 0-2275-7129

ยำซอสไก่ทอด (59 บาท) ลาบวุ้นเส้น (55 บาท) หมูแดดเทวดา (59 บาท) ข้าวผัดเทวดา (45 บาท) ข้าวไข่ข้นกุ้ง (45 บาท) ข้าวราดหมื่นลี้ทะเล (45 บาท) ข้าวราดนมสดทะเล (45 บาท) กุ้งแช่น้ำปลา (59 บาท)

ตั้งอยู่ที่ 122/41 วิภาวดี ซ.2 (ซอย ม. หอการค้าไทย) เขตดินแดง แขวงดินแดง กทม. การเดินทางถ้าขับรถมาจากถ.วิภาวดี วิ่งตรงมายังม.จักรพงษภูวนารถ ขับรถเข้ามาในมหาลัยฯ แล้วบอกกับรปภ.ว่ามากินอาหารที่ร้านตำเทวดา จากนั้นก็เดินออกมาแล้วเดินตรงมาที่วิภาวดีซ. 2 (ซอย ม. หอการค้าไทย) ตรงเข้ามานิดเดียวจะเห็นร้านตำเทวดาอยู่ริมถนนขวามือ จุดสังเกตอยู่ติดกับธ.ไทยพาณิชย์ เปิด ทางร้านมีบริการจัดส่งนอกสถานที่ด้วย
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000027785

ร้าน “เจ๊ไข่” ร้านอาหารทะเล (ถ.ประชาชื่น)
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนถึง ตี 1 ครับ
เบอร์ 02-585-361,08 1889 3739

ร้าน “เจ๊ไข่” ตั้งอยู่ที่ 1300/3-5 ถ.ประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 ถ้ามาจากแยกงามวงศ์วานก็ตรงมาเพื่อที่จะมา ประชานิเวศน์ 1 ก่อนจะถึงแยกไฟแดงให้มองทางซ้ายมือไว้ร้านตั้งอยู่บนฟุตบาท สังเกตง่ายมาก สอบถามรายละเอียดและจองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่

http://www.moohin.com/trips/bangkok/jakaiseafood/

สเต็ก 7 ซอส
ร้านเปิดเวลา 16.00-22.00น. และ จะหยุดทุกวันอังคาร นะครับ

อยู่ในซอยเสนานิคม 1 ถ้าคุณขับรถมาเส้นถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าซอยเสนาฯ ตรงมาเรื่อยๆจนถึงสี่แยกวังหิน ก็ขับตรงมาอีกประมาณ 500 เมตร เลยโรงเรียนสันติสุขวิทยามานิดหน่อย จะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ อยู่ติดริมถนนเลยล่ะ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ทาสีร้านสีเหลือง (น่าจะสังเกตุง่ายอยู่นะ) หากใครขับรถมาคงต้องหาจอดรถตามซอยหรือหากหน้าร้านว่างก็จอดตรงริมนั่นแหละ ตำรวจไม่จับแต่ต้องเป็นหลัง 6 โมงเย็นไปแล้วนะ

http://www.moohin.com/trips/bangkok/steakjedsauce/

บุฟเฟต์
Siam Beveryly Hotel (โรงแรม สยามบิวเวอร์รี่)T. 02 275 4397, 02 290 0170

http://www.siambeverly.com/home.asp

Buffet กลางวัน 179 บาท ไม่รวมเครื่องดื่ม (11-14) ทุกวัน

Buffet เย็น 199 บาท รวมเครื่องดื่ม (18-22) มี ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

(info' as of 14/9/51)

The Emerald Hotel Tel. (02) 276 4567

Buffet Lunch 512 Baht netBuffet

Dinner 399 Baht net (boiled rice)Buffet

Japanese 588 Baht net

open (11.30-14:30)open (18:00-22:00)

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2552

เจ๊ไหม

เจ๊ไหม
ร้านอาหารเจ๊ไหม อาหารทะเล สด อร่อย

สัปดาห์นี้เรามีร้านอาหารทะเลสดๆ รสชาติแสนอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพงมาแนะนำกันค่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ในบริเวณแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งในบริเวณนั้นเป็นแหล่งจำหน่ายอาหารทะเลสด และแปรรูปหลากหลายชนิด และมีร้านอาหารหลายร้านให้บริการ แต่ร้านที่เราอยากแนะนำให้ไปลองชิมคือ ร้านเจ๊ไหม ค่ะ
จุดเด่นของร้านเจ๊ไหม อยู่ที่ความสดของบรรดาอาหารทะเลค่ะ เพราะอยู่ใกล้แหล่งอาหารทะเล นอกจากนั้นรสชาติยังจัดจ้าน เข้มข้น อร่อยทุกจาน และที่ประทับใจที่สุดคือราคาอาหารค่ะ สั่งมาทานกันได้สบายใจทุกๆ จาน ไม่เชื่อลองดูอาหารที่เราจะแนะนำในวันนี้สิคะ

กั้งทอดกระเทียมพริกไทย (100 บาท) ทางร้านเลือกกั้งสดๆ ตัวใหญ่นำไปทอดให้สุก จากนั้นปรุงรสชาติให้หอมอร่อย เน้นความจัดจ้านของรสพริกไทยและกระเทียมสับที่ใส่มาแบบไม่หวงของ รับประทานเปล่าๆ ก็อร่อย หรือจะเพิ่มรสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ด้วยการจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ไม่ผิดกติกาค่ะ

กรรเชียงปูนึ่ง (130 บาท) กรรเชียงปูที่ร้านนี้รับประกันความสด เนื้อยังแน่น หวานตามธรรมชาติ แถมเป็นกระเชียงปูขนาดใหญ่ด้วยค่ะ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ด

แกงส้มกุ้งชะอมไข่ (80 บาท) เสริฟกันมาเป็นหม้อไฟ เราประทับใจกับกุ้งไซส์ใหญ่มาก แถมสด กรอบอีกต่างหาก นอกจากนั้นยังมีไข่ชะอมเนื้อนุ่มๆ หนาๆ กับรสชาติแสนเข้มข้นของน้ำแกงส้ม ได้ทานร้อนๆ แล้วคล่องคอดีจริงๆ ค่ะ

กุ้งผัดพริกขี้หนู (100 บาท) สำหรับคนชอบความเผ็ดร้อนของพริกขี้หนูไม่ควรพลาดจานนี้ค่ะ เพราะทางร้านเลือกกุ้งทะเลตัวโตๆ นำมาผัดกับเครื่องปรุงรสเด็ด พร้อมกับพริกขี้หนูและกระเทียมชิ้นโตๆ ได้รสชาติเข้มข้นถูกใจ ถ้าอยากทานให้อร่อยจริงๆ ต้องทานพริกขี้หนูไปพร้อมๆ กับกุ้งนะคะ แซ่บได้ที่เลยค่ะ

ปลากะพงทอด (220 บาท) อร่อยไปกับปลากะพงสดๆ ตัวโต นำมาแล่เปิดด้านข้างออก ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนเหลืองกรอบ ก่อนเสริฟโรยหน้าด้วยกระเทียมหอมๆ

ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่าง ลอดช่อง (10 บาท) เส้นลอดช่องนุ่มหอมกลิ่นใบเตย กับน้ำกะทิที่เคี่ยวมากับน้ำตาลอย่างดีจึงทั้งหอม ทั้งมัน โรยหน้าด้วยน้ำแข็ง รับประทานเป็นของหวานคลายร้อนค่ะ
คลิกที่ภาพเพื่อชมแผนที่ใหญ่
วันหยุดนี้แวะมาเที่ยว บางแสน หรือ พัทยา อย่าลืมมาพิสูจน์ความสด อร่อย และราคาไม่แพงของบรรดาอาหารทะเลที่ร้านอาหารเจ๊ไหม นะคะ

ชื่อร้าน: ร้านอาหารเจ๊ไหม
เปิดบริการ: ทุกวัน 08.00 -15.00 น.
ที่อยู่: ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โทร: 038-493-874, 038-490-894, 08-6067-1339
บัตรเครดิต: ไม่รับ
ที่จอดรถ: จอดรถได้ริมถนนหรือที่จอดรถฝั่งตรงข้าม

ไหว้พระ 9 วัด พระนครศรีอยุธยา

ไหว้พระ 9 วัด พระนครศรีอยุธยา

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ได้สั่งสมความเจริญในด้านต่างๆ ทั้งการเมือง กฎหมาย เศรษฐกิจ และศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่ามากมาย และนับเนื่องจากความเก่าแก่ที่ควรต้องอนุรักษ์ไว้ตราบชั่วลูกชั่วหลานนี้เอง องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งประชาชาติ หรือ UNESCO จึงได้ประกาศให้กรุงเก่าของเรา เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของโลก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534

1) วัดพนัญเชิง มหามงคล ด้านการค้าพาณิชย์รุ่งเรือง ความสำเร็จในงาน

วัดพนัญเชิง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กิโลเมตร ในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สร้างเมื่อพ.ศ.1867 เดิมชื่อ “พระพุทธเจ้าพนัญเชิง” แต่ในรัชกาลที่ 4 เมื่อมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ พระพุทธรูปองค์จึงนี้ได้พระราชทานนามใหม่ว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก” (ชาวบ้านนิยมเรียกหลวงพ่อโต ชาวจีนนิยมเรียกว่า ซำปอกง) เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยลงรักปิดทอง มีขนาดหน้าตักกว้าง 14.10 เมตรและสูง 19 เมตร ฝีมือปั้นงดงามมาก อาจนับได้ว่า เป็นพระพุทธรูปนั่งสมัยอยุธยาตอนต้น ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง ใครมาอยุธยาต้องไม่พลาดที่จะแวะที่วัดนี้

2) วัดใหญ่ชัยมงคล มหามงคลด้านชัย – มงคล เมตตามหานิยม

วัดนี้สร้างในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เมื่อ พ.ศ. 1900 ได้รับพระราชทานนามว่า วัดป่าแก้ว ต่อมาเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าวันรัต พระสังฆราชฝ่ายวิปัสนา ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดเจ้าพระยาไทย” (หมายถึงสังฆราช) มีเจดีย์องค์ใหญ่ทรงระฆังคว่ำ สูงประมาณ 60 เมตร ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนเรศวร ว่า “เจดีย์ชัยมงคล” สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศ ที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชาแห่งพม่า พระศักดิ์สิทธิ์คู่วัดนี้ได้แก่ พระนอนขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวร

3) วัดพระญาติการาม เมตตามหานิยม บูชาพระรัตนตรัย

วัดพระญาติการาม หรือที่ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกกันว่า “วัดพระญาติ” สร้างขึ้นตั้งแต่ครั้งที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิริมงคลของวัดนี้ คือพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปหินทรายขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก ปางมารวิชัย สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา

4) วัดสมณโกฐาราม บูชาบูรพกษัตริย์ กตัญญูกตเวทิตา เมตตามหามงคล

เป็นวัดที่เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) และเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วัดนี้มีพระปรางค์องค์ใหญ่งดงามมาก รูปทรงสัณฐานแปลกตากว่าที่อื่น สันนิษฐานว่าเลียนแบบมาจากวัดเจดีย์เจ็ดยอด เมื่อคราวที่เจ้าพระยาโกษา (เหล็ก) ไปตีเมืองเชียงใหม่ เมื่อพ.ศ. 2205 ภายในอุโบสถ มีพระประธานเก่าแก่ซึ่งสร้างสมัยอยุธยา เป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป

5) วัดประดู่ทรงธรรม เมตตามหานิยม การช่วยเหลือสรรพสัตว์และการเสียสละ

เดิมชื่อวัดประดู่ หรือวัดประดู่โรงธรรม ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างสมัยใด ภายในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังในสมัยรัตนโกสินทร์ เช่น ภาพกระบวนพยุหยาตราทางสถลมาตร การแสดงมหรสพในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า

6) พระบรมสารีริกธาตุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต

ขุดพบพระบรมสารีริกธาตุนี้จากกรุพระปรางค์วัดมหาธาตุ พระบรมสารีริกธาตุ หมายถึง พระอัฐิธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งพุทธศาสนิกชน จะมีความเชื่อถือในอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่กับพระบรมสารีริกธาตุนั้น และสักการะ เพื่อน้อมขอพระบารมีให้คุ้มครองตัวเอง ให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีผอบเจดีย์ทองคำ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดพบ ณ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ เจดีย์สุริโยทัย

7) วิหารพระมงคลบพิตร พระคู่บ้าน คู่เมืองอยุธยา สิริมงคลทุกด้าน

พระมงคลบพิตรเป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 9.55 เมตรและสูง 12.45 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช เดิมประดิษฐานอยู่กลางแจ้งที่วัดชีเชียง สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม โปรดให้ชะลอมาไว้ ณ ที่ปัจจุบัน ต่อมาฟ้าผ่ายอดมณฑปที่สวมไว้ พระเจ้าเสือจึงโปรดให้ก่อสร้างใหม่เป็นวิหาร ในคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 วิหารพระมงคลบพิตรถูกไฟไหม้ รัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิสังขรณ์ใหม่

8) วัดธรรมิกราช เมตตามหานิยม คุ้มครองรักษาโรคภัยอันตราย

เป็นวัดสงฆ์มหานิกาย เดิมชื่อวัดมุขราช ที่วิหารหลวงแห่งนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐ์ของเศียรพระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ ศิลปะสมัยอู่ทอง ซึ่งปัจจุบัน กรมศิลปากรนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ด้านทิศเหนือของพระเจดีย์สิงห์ล้อม 52 ตัวที่แตกต่างไปจากเจดีย์ช้างล้อมพระพุทธไสยาสน์มีความยาว 12 เมตร หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ที่ฝ่าพระบาทปิดทองประดับกระจก

9) วัดหน้าพระเมรุราชิการาม มหามงคล ความเจริญรุ่งเรือง เมตตามหานิยม

มีชื่อเดิมว่า “วัดพระเมรุราชิการาม” วัดนี้เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยา ที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทรงเครื่องแบบกษัตราธิราช มีนามว่า “พระพุทธนิมิตวิชิตมาร โมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยา ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบันและมีความสมบูรณ์งดงามมาก

ไหว้พระ 9 วัด (กรุงเทพ) เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่มา: http://www.sanook.com/

ไหว้พระ ๙ วัด (กรุงเทพ ฯ) เพื่อความเป็นสิริมงคล

1. ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร
(เวลาเปิด-ปิด 05.30 - 19.30 น.)คติ " ตัดเคราะห์ ต่อชะตา"

กิจกรรม สักการะหลักเมือง ไหว้พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เจ้าพ่อเจตคุปต์ พระเทพไชยศรี เจ้าพ่อหอกลอง ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ ตามธรรมเนียมเพื่อความเป็นสิริมงคล " ไหว้หลักเมือง ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี "

สถานที่ตั้ง อยู่บริเวณหัวมุมสวนหลวง ข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมืองแขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 47, 53, 64, 80, 82, 91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 503,508,
512

2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
(เวลาเปิด-ปิด 08.30 - 16.00 น.)คติ "แก้วแหวนเงินทองไหลมา"

กิจกรรม ไหว้พระแก้วมรกต พระพุทธรูปสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางความศรัทธาไทย - ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล " ไหว้พระแก้วมรกต แก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี "

สถานที่ตั้ง อยู่ในพระบรมมหาราชวัง ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80, 82,91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 501, 503, 508, 512

3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "ร่มเย็นเป็นสุข"

กิจกรรม นมัสการพระพุทธไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์ (ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างประดับมุก ลวดลายภาพมงคล 108 ประการ) เพื่อความเป็นสิริมงคล " ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ อยู่ดีกินดีตลอดปี "

สถานที่ตั้ง หลังพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123,รถปรับอากาศ สาย 501, 508

4. ศาลเจ้าพ่อเสือ
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "มีอำนาจบารมี"

กิจกรรม ไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ "ศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิเต๋า" หนึ่งในสามมหาสถานของพระนครที่ชาวจีนต้องสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล " เสริมอำนาจบารมี "
สถานที่ตั้ง ถนนตะนาว แขวงเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12, 19, 35, 42, 56, 96

5. วัดสุทัศนเทพวราราม
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "มีวิสัยทัศน์ที่ดี"

กิจกรรม ไหว้พระองค์ประธาน (พระศรีศากยมุณี) ที่เก่าแก่ ซึ่งอดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดสุทัศนฯ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป"

สถานที่ตั้ง บริเวณเสาชิงช้า ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 10, 12

6. วัดชนะสงคราม
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง"

กิจกรรม ไหว้พระประธานในโบสถ์และรูปเคารพสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา) ผู้นับถือความซื่อสัตย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรคร้ายพ่ายแพ้"

สถานที่ตั้ง ถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 65, 82, 123 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 6, 509

7. วัดระฆังโฆษิตาราม
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "มีคนนิยมชมชื่น"

กิจกรรม สักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานที่วัดระฆัง อ่านคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นสิริมงคล " ไหว้พระวัดระฆัง มีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี "

สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทาง สาย 19, 57, 83 ท่าเรือ เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่ารถไฟหรือท่าวังหลังก็ได้ หรือลงเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปท่าวัดระฆัง

8. วัดอรุณราชวราราม
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน"

กิจกรรม ไหว้พระปรางค์วัดอรุณฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้พระวัดอรุณ ชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน"

สถานที่ตั้ง ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่

การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 19, 57, 83 ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเตียนขึ้นที่ท่าวัดอรุณ

9. วัดกัลยาณมิตร
(เวลาเปิด-ปิด 08.00 - 16.00 น.)คติ "เดินทางปลอดภัย"

กิจกรรม ไหว้หลวงพ่อซำปอกง (พระพุทธไตรรัตนนายก) พระโตริมน้ำตามตำนาน กรุงศรีอยุธยา ณ วัดกัลยาณมิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล "ไหว้หลวงพ่อซำปอกง โชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี"

สถานที่ตั้ง แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี

การเดินทาง โดยรถประจำทาง สาย 3, 4, 7, 7ก, 9, 21, 37, 56, 82 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 7, 21, 82 (นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากโรงเรียนศึกษานารี เข้ามาที่วัดเพราะรถ ประจำทางเข้าไม่ถึง) ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าปากคลองตลาดขึ้นท่าวัดกัลยาณมิตร เพื่อความสะดวกควรเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือบริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำกัดมาก

เกร็ดเสริม เที่ยวสิริมงคลไหว้พระ 9 วัด

เป็นเรื่องที่นิยมมาตลอดกับการไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง ทัวร์ "ไหว้พระ 9 วัด" กลายเป็น "มงคล" ยอดฮิตที่คนไทยและต่างชาติกำลังให้ความสนใจ

วัดทั้ง 9 ที่ว่ามี วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร, ศาลหลักเมือง, วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว), วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์), วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, ศาลเจ้าพ่อเสือ, วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดแจ้ง), วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

บางคนเคร่งครัดจัดถึงขนาดที่จะต้องไปสักการะให้ครบทั้ง 9 แห่งในวันเดียว !!! ความฮิตดังว่าทำให้การททท.หยิบ "ทัวร์มงคล" นี้ใส่ในโปรเจ็กต์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อให้หันมาสนใจท่องเที่ยวบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์กันมากขึ้น และเพื่อเป็นการดึงดูดใจเป็นทวีคูณ ททท. เหน็บเกร็ดความรู้ ความเชื่อและวิธีการสักการะแต่ละแห่งเพื่อเสริมความมงคลกันอย่างสูงสุด

วัดชนะสงคราม ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ในพระอุโบสถ และ "สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท" ด้วย ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก มีความเชื่อว่า "จะมีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง"

ศาลหลักเมือง ไปสักการะ "เทพารักษ์ทั้ง 5" คือ พระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี, เจ้าพ่อเจตคุปต์, เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ "ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี" ไหว้ เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัว และไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปที่นี่ต้องไปไหว้ "พระแก้วมรกต" ด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่ เพื่อ "แก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา"

วัดพระเชตุพนฯ ต้องไปไหว้ "พระพุทธไสยาสน์" เพื่อ "ความสงบสุขร่มเย็น" ด้วยธูป 9 ดอก เทียนแดงคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น

วัดสุทัศน์ฯ เพื่อ "วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป" ต้องไปสักการะ "พระศรีศากยมุนี" ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม ดอกบัวหรือพวงมาลัย

ศาลเจ้าพ่อเสือ ไปสักการะ เจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม ฯลฯ เพื่อเสริม "อำนาจบารมี" ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถาง เทียนแดง 1 คู่ พวงมาลัย 1 พวง

วัดระฆังฯ ต้องไปสักการะ "สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โตพรหมรังสี) ด้วยธูป) 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 3 แผ่น หมากพลู และภาวนาด้วยคาถาชินบัญชร เพื่อ "ความนิยมชมชื่น มีชื่อเสียงโด่งดัง"

วัดอรุณฯ ต้องไปสักการะ "พระประธาน" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ และต้องไปเดินทักษิณาวัตรรอบ "พระปรางค์" อีก 3 รอบ เพื่อ "ชีวิตรุ่งโรจน์"

วัดกัลยาณมิตรฯ ไหว้ "พระประธานหรือหลวงพ่อซำปอกง" ด้วยธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ เพื่อ "ความสวัสดีมีชัย เดินทางปลอดภัย"

การได้ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนั้นไม่จำเป็นต้องไปในวันพิเศษทางศาสนาเท่านั้น หากสามารถไปนมัสการได้ทุกเมื่อ ซึ่งการไปนมัสการนี้ ไม่เพียงจะก่อให้เกิดความสบายใจเทˆานั้น หากยังเป็นกุศโลบายที่สร้างความเชื่อมั่นในการพาชีวิตก้าวเดินต่อไปในอนาคต ด้วยสัญญาใจที่ให้ไว้กับตัวเอง และถ้าไม่มุ่งมั่นในโกย "มงคล" เกินไป เวลานั้นน่าจะเป็นเวลาทองที่ได้ซึมซับความสงบสุข ความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษไทยได้อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ส่งเสริมการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร โทร. 02 225 7612 - 5การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยโทร. 1672

ที่มา www.dhammathai.org